วันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2555


 เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลในเครือข่ายคอมพิวเตอร์


        เทคโนโลยีในการส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ สามารถแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลแบบใช้สาย และ เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลแบบไร้สาย ดังนี้

   4.1 เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลแบบไร้สาย

        เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลแบบไร้สาย แบ่งออกเป็น 3 ชนิด ได้แก่

1)    สายตีเกลียวคู่ ประกอบด้วยเส้นลวดทองแดง 2 เส้น ที่หุ้มด้วยฉนวนพลาสติก พันบิดกันเป็นเกลียว เพื่อลดการรบกวนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากไฟฟ้าความถี่สูงได้ สำหรับอัตราการส่งข้อมูลผ่านสายตีเกลียวคู่จะขึ้นอยู่กับความหนาของสายคือ สายทองแดงที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว้าง จะสามารถรับส่งสัญญาณไฟฟ้ากำลังแรงได้ สามารถใช้ส่ง 100 เมกะบิตต่อวินาที ในระยะทางไม่เกินร้อยเมตร สายตีเกลียวคู่มี 2 ชนิด

1.1)สายตีเกลียวคู่แบบไม่ป้องกันสัญญาณรบกวน หรือ ชนิดไม่หุ้มฉนวน เป็นสายตีเกลียวคู่ที่ไม่มีฉนวนชั้นนอก ทำให้สะดวกในการโค้งงอ แต่สามารถป้องกันการรบกวนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้น้อยกว่าสายตีเกลียวคู่ชนิดหุ้มฉนวน ใช้ในระบบวงจรโทรศัพท์แบบดั้งเดิม ปัจจุบันมีการปรับคุณสมบัติให้ดีขึ้น และเนื่องจากมีราคาถูกจึงนิยมใช้ในการเชือ่มต่ออุปกรณ์เครือข่าย

               1.2)สายตีเกลียวคู่แบบป้องกันสัญญาณรบกวนหรือชนิดหุ้มฉนวน เป็นสายตีเกลียวคู่ที่ชั้นนอกหุ้มด้วยลวดถักที่หนา เพื่อป้องกันการรบกวนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า รองรับความถี่ของการส่งข้อมูลได้

2) สายโอแอกซ์ มีลักษณะเช่นเดียวกับสายที่ติอมาจากเสาอากาศประกอบด้วยลวดทองแดงที่เป็นแกนหลักหุ้มด้วยฉนวนชั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้ารั่ว จากนั้นจะหุ้มด้วยตัวนำซึ่งทำจากลวดทองแดงถักเป็นเปียเพื่อป้องกันการรบกวนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและอื่นๆ สายโคแอกซ์มี 2 ชนิด คือ 50 โอห์ม และ 75 โอห์ม

3) สายใยแก้วนำแสง หรือเส้นใยนำแสง แกนกลางของสายประกอบด้วยเส้นใยแก้วหรือเส้นพลาสติกขนาดเล็กภายในกลวง หลายๆ เส้น อยู่รวมกัน เส้นใยแต่ละเส้นมีขนาดเล็กประมาณเส้นผมของมนุษย์ โดยใช้เส้นใยชั้นนอกเป็นกระจกสะท้อนแสง สามารถส่งข้อมูลด้วยอัตราความหนาแน่นของสัญญาณข้อมูลที่สูงมาก และ ไม่มีการก่อกวนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มีลักษณะพิเศษที่ใช้สำหรับเชื่อมโยงแบบจุดไปจุด

4.2 เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลแบบไร้สาย

        เทคโนโลยีการส่งข้อมูลแบบไร้สาย อาศัยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นสื่อกลางนำสัญญาณซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 4 ชนิด

        1) อินฟราเรด เป็นลักษณะของคลื่นที่ใช้ในการส่งข้อมูลระยะใกล้ๆในช่วงความถี่ที่แคบมาก ใช้ช่องทางสื่อสารน้อย มักใช้กับการสื่อสารข้อมูลที่ไม่มีสิ่งกีดขวางระหว่างตัวส่งกับตัวรับสัญญาณ โดยวิธีการสื่อสารตามแนวเส้นตรง ระยะทางไม่เกิน 1-2 เมตร ความเร็วประมาณ 4-16 เมกกะบิตต่อนาที

         2) คลื่นวิทยุ ใช้ส่งสัญญาณไปในอากาศ โดยมีตัวกระจายสัญญาณส่งไปยังตัวรับสัญญาณ และใช้คลื่นวิทยุความถี่ต่างๆ กัน มีความเร็วต่ำประมาณ 2 เมกกะบิตต่อนาที เช่น การสื่อสารในระบบวิทยุเอฟเอ็ม เอเอ็ม การสื่อสารแบบไร้สาย และ บลูทูท

        3) ไมโครเวฟ จะใช้การส่งสัญญาณคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไปในอากาศ พร้อมกับข้อมูลที่ต้องการส่ง และต้องมีสถานีที่ทำหน้าที่ส่งและรับข้อมูล จึงต้องมีการรับส่งข้อมูลเป็นระยะๆ เหมาะกับการส่งข้อมูลในพื้นที่ห่างไกล และ ทุรกันดาร

       4) ดาวเทียม เป็นสถานีรับส่งสัญญาณไมโครเวฟบนท้องฟ้า ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดของสถานีรับส่ง สัญญาณไมโครเวฟบนอวกาศ และทวนสัญญาณในแนวโคจรของโลกซึ่งจะต้องมีสถานีภาคพื้นดิน ทำหน้าที่รับและส่งสัญญาณขึ้นไปบนดาวเทียมที่โคจรอยู่สูงจากพื้นโลกประมาณ 35,600 ไมล์ โดยดาวเทียมเหล่านั้นจะเคลื่อนตัวด้วยความเร็วที่เท่ากับการหมุนของโลก

ขอขอบคุณ : หนังสือเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.2


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น